ความรับผิดชอบ การสอนเด็กให้รู้จักความรับผิดชอบและการปกป้องตัวเอง

ความรับผิดชอบ เซ็กส์ไม่ใช่เรื่องน่าอาย พ่อแม่ควรให้ความรู้เรื่องเพศที่ถูกต้องแก่ลูก ทำให้เด็กตระหนักถึงอันตรายทางเพศ การล่วงละเมิดทางเพศสามารถเกิดขึ้นได้กับทั้งเด็กหญิงและเด็กชายในปัจจุบัน มักเกิดขึ้นระหว่างคนรู้จัก เกิดในที่ที่คุ้นเคย การสอนลูกให้ระวังคนแปลกหน้าไม่เพียงพออีกต่อไป พ่อแม่ต้องรู้วิธีสอนลูกให้รู้จักปกป้องสิทธิ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศจากคนแปลกหน้าและคนรู้จัก เบื้องต้นมี ดังนี้

1. สอนให้ลูกรู้จักชื่ออวัยวะต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงชื่ออวัยวะเพศให้ถูกต้อง โดยใช้คำกลางที่เข้าใจง่าย เช่น องคชาต ใช้เรียกอวัยวะเพศชาย และจิ๋ม ใช้เรียกอวัยวะเพศหญิง ทำให้ลูกๆ สามารถสื่อสารและเข้าใจพ่อแม่ได้อย่างถูกต้อง 2. สอนให้ลูกรู้จักพื้นที่ส่วนตัว ได้แก่ อวัยวะเพศ ปากช่องคลอด บั้นท้าย หน้าอก และอวัยวะอื่นๆ ภายใต้เสื้อผ้า เด็กต้องรู้จักปกป้องร่างกายของตนเอง ห้ามผู้ใดชม ถ่ายภาพ หรือสัมผัสในบริเวณนี้

3. สอนให้เด็กแยกแยะการสัมผัสที่ปลอดภัย การสัมผัสที่ปลอดภัย เช่น พ่อแม่และพี่เลี้ยงจำเป็นต้องช่วยเด็กทำความสะอาดสัมผัสของตนเองเมื่อยังเด็ก การสัมผัสตัวของแพทย์ที่ตรวจร่างกายเด็กเมื่อเด็กป่วย เช่น การสัมผัสตัวอาจารย์ในบางเรื่องอาจต้องสัมผัสเพียงเล็กน้อย

4. สอนให้เด็กรู้จักปกป้องสิทธิทางกาย หากมีการสัมผัสใดๆ ที่ทำให้เด็กไม่สบายใจ เช่น จับมือ สัมผัสร่างกาย ต้องกล้าปฏิเสธทันที ไม่ต้องเกรงใจใคร เด็กมีสิทธิในร่างกายของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว หากเด็กไม่สบายใจหรือไม่สบายใจ ให้พูดว่าไม่หรือหยุดดังๆ แล้ววิ่งหนีทันที

5. สอนลูกไม่ให้ซ่อนตัวจากพ่อแม่ ถ้ามีคนขอร้องหรือขู่ไม่ให้เด็กบอกพ่อแม่ คุณควรบอกพ่อแม่ทันที คุณไม่ควรบอกพ่อแม่หากคุณรู้สึกไม่สบายใจและพูดคุยกับพ่อแม่ ตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่า ผู้ปกครองของเด็กสามารถปกป้องเด็กได้ ไม่มีใครทำอะไรเด็กได้

6. อย่าบังคับให้ลูกกอดหรือจูบใคร และบางครั้งก็ออกไปเยี่ยมผู้ใหญ่ หรือคนรู้จักที่รักลูกอยากจะสัมผัส กอด อุ้ม ก็อาจเป็นพ่อแม่เองที่ยอมให้คนอื่นแตะตัวลูก คุณมีสิทธิที่จะปกป้องร่างกายของเขา พ่อแม่ต้องไม่บังคับให้เด็กกอดหรือจูบใคร คุณควรขอความยินยอมจากบุตรหลานของคุณก่อน และให้เด็กมีสิทธิตัดสินใจว่าจะอนุญาตหรือไม่ ถ้าพ่อแม่บังคับลูก ลูกอาจจะรู้สึกว่าพ่อแม่ปกป้องไม่ได้จริงๆ

7. สอนเด็กถึงสิทธิในการเคารพศพของผู้อื่น เมื่อเรามีสิทธิที่จะเป็นเจ้าของร่างกายของตัวเอง เราก็ต้องเคารพในสิทธิในร่างกายของผู้อื่นด้วย ไม่มองหรือแตะต้องอวัยวะส่วนตัวของผู้อื่น ถ้าลูกจะไปแตะต้องใครให้ถามก่อน ถ้าเขาไม่อนุญาตลูกก็ต้องหยุดด้วย

8.อย่าไว้ใจใครง่ายๆ แม้ว่าผู้ชายจะดูเป็นมิตรแต่ไว้ใจได้ เพราะเราไม่สามารถตัดสินคนจากภายนอกได้ พึงระวังอย่าไว้ใจใครง่ายๆ เพราะการล่วงละเมิดทางเพศในสมัยนี้สามารถเกิดกับคนแปลกหน้าได้ และคนใกล้ชิดที่ลูกเคารพรวมถึงคนที่พบเจอผ่านทางโลกออนไลน์ด้วย ส่วนพ่อแม่เองก็ไม่ควรฝากลูกไว้กับบุคคลที่เราไม่ไว้ใจ 100%

นอกจากนี้ สถิติยังแสดงให้เห็นว่า ครึ่งหนึ่งของการทารุณกรรมทั้งหมดเกิดขึ้นในหรือใกล้บ้าน รวมถึงโรงเรียน บ้านของเพื่อนบ้าน บ้านญาติ สถานที่เปลี่ยว ถนนเปลี่ยว ผู้ปกครองไม่ควรนิ่งนอนใจในความปลอดภัยของบุตรหลาน

9.ฝึกลูกให้รู้จักเอาตัวรอด นอกจากการให้ความรู้แก่เด็กเกี่ยวกับอันตรายของการล่วงละเมิดทางเพศ และรู้วิธีป้องกันตนเองแล้ว ควรมีอาวุธเพื่อให้เด็กใช้ป้องกันตัวในกรณีฉุกเฉิน เช่น สำหรับเด็กเล็กควรพกนกหวีด ใช้ในกรณีฉุกเฉินและสอนเด็กๆ ถึงวิธีการวิ่งและเอาชีวิตรอด ส่วนเด็กโตควรให้เด็กเรียนศิลปะป้องกันตัว

10. สอนผ่านนิทานแสนสนุก การเล่านิทานให้เด็กฟังทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกและเป็นธรรมชาติ เด็กไม่รู้สึกเหมือนถูกสอน เมื่อเด็กถึงวัยที่ต้องการเรียนรู้เรื่องเพศ เขาสงสัยว่าทำไมร่างกายของเขาถึงแตกต่างจากเด็กคนอื่น นิทานเป็นเครื่องมือที่ดีในการสอนเด็กๆ เรื่องเพศ ซึ่งรวมถึงการสอนสุขอนามัยของอวัยวะเพศ และสอนเด็กๆ ถึงวิธีการปกป้องสิทธิทางร่างกายของพวกเขา

สอนลูกให้มีความรับผิดชอบ 1. พ่อแม่ต้องจริงจัง เชื่อกันว่าแต่ละครอบครัวกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบให้กับเด็กตามวัย แต่ไม่ใช่ว่าทุกครอบครัวจะประสบความสำเร็จในการสอนลูกให้มี ความรับผิดชอบ ไม่ใช่ว่าพ่อแม่สอนว่าปากเปียก แต่ลูกก็ยังไม่ยอมฟัง มันเกี่ยวกับปฏิกิริยาของพ่อแม่เมื่อลูกไม่รับผิดชอบ ไม่ลุกจากที่นอนและไม่ทำความสะอาดห้องเมื่อลูกไม่ทำการบ้าน พ่อแม่บ่น เดี๋ยวก็หาย เป็นความผิดของพ่อแม่ที่ไม่จริงจัง

2. อย่าบังคับ แต่อธิบายว่าเหตุใดจึงต้องรับผิดชอบ หากคุณมอบหมายความรับผิดชอบให้ลูก และบังคับให้พวกเขาทำหรือไม่ทำบางอย่าง พวกเขาจะถูกดุและทำโทษ จากนั้นคุณก็จะพยายามหาข้อแก้ตัว โกหก และหาข้อแก้ตัวมากมาย เพื่อที่จะไม่ต้อง สิ่งที่พ่อแม่ควรทำก่อนบังคับลูก คือการนั่งลงกับลูกและพูดคุยอธิบายว่าเหตุใดจึงต้องทำ

เช่น ทำไมต้องเก็บที่นอนทุกเช้า เพราะการเก็บที่นอนตอนเช้าเป็นงานแรกของวันไม่ใช่เรื่องยาก ถ้างานแรกของวันเสร็จ เด็กจะรู้สึกภูมิใจในตัวเอง และมีแรงที่จะก้าวไปสู่สิ่งอื่นๆ นอกจากนี้ ควรพับผ้าห่มแล้ววางไว้ที่ปลายเตียง ทั้งยังช่วยให้เตียงระบายอากาศได้ดีขึ้น นอกจากนี้ แสงอาทิตย์บนผ้าปูที่นอน ยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่มากับคราบเหงื่อไคลในขณะที่คุณนอนหลับ

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ : ออกกำลังกาย อธิบายเกี่ยวกับโภชนาการที่ดีเพื่อการออกกำลังกายของคุณ